แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 5,6,9,14,31,35 ฯลฯประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสอง 2 ปีจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยทั้งสอง1 ปี ฯลฯ
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นฎีกาโดยผ่านพัสดีศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง (อันดับ 38 แผ่นที่ 2)
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ (อันดับ 43)
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 42)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 2 ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ตีราคาประกัน 100,000 บาท (อันดับ 21)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพตามฟ้องต่อศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี จำเลยที่ 2 จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ทั้งจำเลยที่ 2 ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาตาม มาตรา 221 จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 ในระหว่างฎีกา