คำสั่งคำร้องที่ 314/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาโจทก์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับโจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าเนื่องจากจำเลยไม่นำพยานเข้าสืบ แต่โจทก์นำพยานบุคคลสืบประกอบพยานเอกสารสัญญากู้หมาย จ.1 ได้สมตามฟ้อง การที่ศาลวินิจฉัยโดยปราศจากหลักฐานของจำเลยที่ 1 อันเป็นสาระสำคัญแห่งคดีที่จะต้องนำมาวินิจฉัยหักล้างพยานโจทก์ จึงเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจำนวน 25,556 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงิน 20,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 50)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 51)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาโจทก์ล้วนเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหาใช่เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายดังที่โจทก์กล่าวอ้างไม่ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา โจทก์โดยเห็นว่าเป็นฎีกาที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงชอบแล้วให้ยกคำร้อง คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดและค่าคำร้องที่เสียเกิดมาให้โจทก์

Share