คำสั่งคำร้องที่ 309/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยล้วนเป็นปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้าม ไม่รับฎีกาของจำเลย คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า มารดาจำเลยมีส่วนร่วมออกเงิน ซื้อที่ดินพิพาทด้วยจึงถือว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาทและมีสิทธิยกที่ดินส่วนที่จำเลยครอบครองให้จำเลย ได้นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลย ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยยื่นคำร้องขอให้เรียกนายมี จันทร์ทอง เข้ามาเป็นจำเลยในคดีฟ้องแย้งศาลชั้นต้นอนุญาต โดยให้เรียกว่าจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนโรงเรือนแล้วให้จำเลย และบริวารออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 3240 ตำบลโรงเข้อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ของโจทก์ ห้ามเกี่ยวข้องอีกให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 200 บาท นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 4 มิถุนายน 2534) จนกว่าจำเลยจะรื้อถอนโรงเรือนออกไป จากที่ดินของโจทก์ พิพากษายกฟ้องแย้งจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 126) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 128)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าที่จำเลยฎีกาว่ามารดาจำเลยมีส่วนร่วมออกเงินซื้อที่ดินพิพาทด้วย จึงถือว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาทและมีสิทธิยกที่ดิน ส่วนที่จำเลยครอบครองให้จำเลยได้นั้น เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share