แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา เนื่องจากคดีนี้จำเลยทั้งสองถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดและอายัดทรัพย์ไว้หมดสิ้นตั้งแต่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวแล้ว ทรัพย์สินซึ่งเป็นสังหาริมทรัพย์เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดไปหมดแล้วยังเหลือที่ดินบ้านพักและทาวน์เฮาส์ หากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะขายทอดตลาดบ้านพักและทาวน์เฮาส์จะทำให้ผู้อาศัยอยู่เดิมได้รับความเดือดร้อน ส่วนที่ดินขณะนี้ราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว โปรดมีคำสั่งให้งดการขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (สำนวนตอน 3 อันดับ 11แผ่นที่ 2) เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แถลงคัดค้าน (สำนวนตอน 3อันดับ 12 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์บริษัทเสมาฟ้าครามนคร จำกัดจำเลยที่ 1 นายพรชัยสิงหเสมานนท์ จำเลยที่ 2 เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14 ประกอบด้วยพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 10
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (สำนวนตอน 3อันดับ 3,2)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีล้มละลาย เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดแล้ว ก็เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะเข้าจัดการทรัพย์สินของจำเลยต่อไป ตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย จำเลยทั้งสองจะมาขอให้ทุเลาการบังคับโดยขอให้งดการขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้ในระหว่างฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 ดังเช่นคดีแพ่งธรรมดาไม่ได้ ให้ยกคำร้องของจำเลยทั้งสอง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
