คำสั่งคำร้องที่ 2990/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า ผู้ร้องได้ประกันตัวนางสาววรีรัตน์โชคชัยไพศาลหรือนางบังอรศรีแจ่มดี จำเลยที่ 2 ไประหว่างฎีกา โดยนำสลากออมสินพิเศษงวดที่ 7 สาขาสำนักงานใหญ่ เลขที่ ด.3794530ถึงด.3799529จำนวน 1 ฉบับ และสมุดฝากเงินประจำธนาคารกสิกรไทย สาขาสนามเป้าบัญชีเลขที่ 029-3-02386-7/01 จำนวน 1 เล่ม วางไว้เป็นหลักประกันต่อศาล บัดนี้ผู้ร้องมีความจำเป็นจะต้องนำสลากออมสินพิเศษฉบับดังกล่าวไปไถ่ถอนเงินคืน เนื่องจากสลากออมสินหมดอายุแล้ว จึงขอเปลี่ยนหลักทรัพย์เฉพาะสลากออมสินโดยนำสมุดฝากเงินประจำธนาคารกสิกรไทย สาขาสนามเป้า บัญชีเลขที่ 029-3-03149-5/01จำนวน 1 เล่ม รวมเงินฝาก 150,000 บาท ของผู้ร้อง มาขอวางเป็นหลักประกันใหม่แทน โปรดอนุญาต
หมายเหตุ คดีทั้งสองสำนวนศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกันเพื่อความสะดวกในการพิจารณา ให้เรียกจำเลยในสำนวนแรกว่า จำเลยที่ 1 เรียกจำเลยในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 2
ระหว่างพิจารณา ธนาคารกรุงไทย จำกัด ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมทั้งสองสำนวน ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244 ประกอบมาตรา 247 และมาตรา 341ให้ลงโทษตามมาตรา 244 ประกอบมาตรา 247 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกคนละ 5 ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงเหลือโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด3 ปี 4 เดือน ริบธนบัตรปลอมของกลางกับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงินจำนวน 113,476 บาท แก่ผู้เสียหาย ข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด4 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (อันดับ 123,122,126)คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
ผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว (สำนวนธุรการคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 5618/2532 อันดับ 64)
ศาลฎีกาอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 2 ชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยตีราคาประกัน 250,000 บาท (สำนวนธุรการคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 5618/2532 อันดับ 55,60,61)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้เปลี่ยนหลักประกันได้ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

Share