แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้โจทก์ได้นำคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับของจำเลยทั้งสองมายื่นที่ศาลชั้นต้นเมื่อ วันที่ 29 กรกฎาคม 2535 เลยเวลาราชการประมาณ 10 นาทีซึ่งในวันดังกล่าวฝนตกหนักการจราจรติดขัด โดยทนายโจทก์ติดว่าความอยู่ที่ศาลแพ่งคดีเสร็จการพิจารณาประมาณ 11 นาฬิกาเศษ เวลาประมาณ 16.00 นาฬิกาเศษ ทนายโจทก์ได้โทรศัพท์ แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ศาลชั้นต้นว่าประสงค์จะนำคำแก้ฎีกา พร้อมคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับมายื่น เจ้าหน้าที่ศาล รับทราบและตกลงจะรอทนายโจทก์เมื่อทนายโจทก์มาถึงศาลชั้นต้น เวลาประมาณ 16.40 นาฬิกา เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งว่าเลย เวลาราชการแล้วไม่อาจนำเสนอเพื่อให้ศาลชั้นต้นสั่งรับคำแก้ฎีกาได้ การที่โจทก์นำคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านคำร้องขอทุเลาการบังคับมายื่นเลยเวลาดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัยไม่อาจก้าวล่วงได้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โปรดรับคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับของโจทก์ด้วย
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 110 แผ่นที่ 2)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน12,079,312.13 บาท และเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีจากต้นเงิน 8,126,607.35 บาทนับแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2531ซึ่งเป็นวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเงินเสร็จให้โจทก์ ให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน 640,000 บาท และเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2528 ถึงวันฟ้องและในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้อง ไปจนกว่าจำเลยที่ 2 จะชำระเงินเสร็จให้โจทก์ถ้าจำเลยทั้งสองไม่ชำระให้นำที่ดินที่จำนองไว้ออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมา ชำระหนี้ให้โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองมาขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์จนครบ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาอย่างคนอนาถา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ (อันดับ 102.1 แผ่นที่ 5 ที่ 1 และที่ 4)
ทนายโจทก์ได้รับสำเนาฎีกาและสำเนาคำร้องขอทุเลา การบังคับ โดยวิธีปิดหมายเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2535(อันดับ 104 แผ่นที่ 2)
โจทก์ยื่นคำแก้ฎีกาลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2535 พร้อมคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับของจำเลยทั้งสอง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับ เนื่องจากยื่นเกินเวลาราชการ แต่ให้ถือว่าคำแก้ฎีกาเป็น คำแถลงการณ์ (อันดับ 106 แผ่นที่ 2 และที่ 1)
โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วให้ส่งศาลฎีกาสั่ง (อันดับ 107,115)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามทางไต่สวนได้ความว่า ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2535 เวลา 12-13 นาฬิกา มีฝนตกหนักในกรุงเทพมหานคร เส้นทางจราจรติดขัด ตอนเข้าทนายโจทก์ติดว่าความที่ศาลแพ่ง ตอนบ่ายเวลา 16 นาฬิกาเศษทนายโจทก์ได้โทรศัพท์แจ้งเหตุขัดข้อง ให้เจ้าหน้าที่ศาลชั้นต้นทราบ และเดินทางมาถึงศาลชั้นต้นเวลา ประมาณ 16.40 นาฬิกา ถือได้ว่า เป็นกรณีมีพฤติการณ์ พิเศษ และทนายโจทก์มายื่นคำแก้ฎีกาและคำคัดค้าน การขอทุเลาการบังคับช้าไป 10 นาที เพราะมีเหตุสุดวิสัย จึงให้รับคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับของโจทก์