คำสั่งคำร้องที่ 2936-2937/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของ จำเลยทั้งสองต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด จำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาที่ว่า อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามกฎหมาย ตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย หรือไม่ มิใช่เป็นฎีกาในเนื้อหาประเด็นข้อพิพาทแห่งคดี เพื่อให้ศาลฎีกาพิจารณาวินิจฉัยข้อแพ้ชนะในคดีแต่ประการใด ฎีกาของจำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 110) คดีทั้งสองสำนวนศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยเรียกโจทก์ในสำนวนแรก ซึ่งเป็นจำเลยในสำนวนหลังว่า โจทก์ เรียกจำเลยที่ 1 ในสำนวนแรกว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ในสำนวนแรกซึ่งเป็นโจทก์ในสำนวนหลังว่าจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนบ้านและขนย้ายทรัพย์สินพร้อมทั้งบริวารออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 8203,8204 ตำบลหนองเหียงอำเภอพนัศ(อำเภอพนัสนิคม)จังหวัดชลบุรี ให้จำเลยทั้งสองส่งมอบที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าว คืนให้แก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อย และห้ามมิให้เข้ามาเกี่ยวข้อง กับที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวอีกต่อไป ให้จำเลยทั้งสอง ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในอัตราเดือนละ 1,000 บาท นับแต่วันฟ้อง (31 กรกฎาคม 2534) จนกว่าจำเลยทั้งสอง จะรื้อถอนบ้านและขนย้ายทรัพย์สินพร้อมทั้งบริวาร ออกไปจากที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าว ให้ยกฟ้องของจำเลยที่ 2 ในสำนวนหลัง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์จำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 102) จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 105)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า คดีของจำเลยทั้งสองไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง โดยเห็นว่าต้องห้ามเป็นการไม่ชอบนั้น เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้น ดำเนินการต่อไป

Share