คำสั่งคำร้องที่ 2922/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยทุกข้อ เป็นฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก จึงไม่รับ จำเลยเห็นว่า ฎีกาข้อ 4 ที่ว่า การกระทำของจำเลยในฐานะส่วนตัวมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 หรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลย ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 112)ส่วนโจทก์ร่วมทั้งสองไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนว่า ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่ ระหว่างพิจารณา นางสุรินทร์ ดิษฐจินดา และนายสุพลมิสกาวัน ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 จำคุก 5 ปี จำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานตำรวจแล้ว ให้การปฏิเสธมีประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุก 3 ปี 9 เดือน คำขอของโจทก์ นอกจากนี้ให้ยก ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 105) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 112)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ศาลอุทธรณ์รับฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกของนายมีนมิสกาวัน โอนทรัพย์มรดกให้เป็นของผู้อื่นโดยทุจริต จนเป็นเหตุให้เกิด ความเสียหายแก่โจทก์ร่วมทั้งสอง การกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ประกอบด้วยมาตรา 354 ที่จำเลยฎีกาข้อ 4 ว่า จำเลยในฐานะ ผู้จัดการมรดกได้โอนที่ดินแก่ตนเองก่อน แม้ต่อมาจำเลย จะโอนที่ดินให้แก่บุคคลใดก็ตาม จำเลยก็ไม่มีความผิดนั้น เป็นฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมา คดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้าม มิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก ยกคำร้อง

Share