คำสั่งคำร้องที่ 2880/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา เพื่อขอซื้อที่นาพิพาทจากจำเลย ในราคาไร่ละ 20,000 บาท มีทางชนะคดี หากโจทก์ต้องถูกบังคับ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์แล้วจะทำให้โจทก์ ได้รับความเสียหาย ขอศาลฎีกาโปรดงดการบังคับคดีไว้ จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา โปรดอนุญาต หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 111 แผ่นที่ 3) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองจดทะเบียนโอนขายที่นา พิพาทโฉนดเลขที่ 9586 ตำบลดอกแฝก อำเภอนครชัยศรีจังหวัดนครปฐม เฉพาะส่วนของจำเลยทั้งสองเนื้อที่ 18 ไร่3 งาน 90 ตารางวา ให้แก่โจทก์ ในราคาไร่ละ 200,000 บาทโดยให้โจทก์ชำระราคาที่ดินตอบแทนภายใน 6 เดือน นับแต่วันพิพากษา มิฉะนั้นให้ถือว่าโจทก์หมดสิทธิซื้อที่ดินพิพาทคืนจากจำเลย ทั้งสอง หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองจดทะเบียนขายที่นาพิพาทเนื้อที่ 18 ไร่ 3 งาน 90 ตารางวา เฉพาะส่วนของตนในที่ดินโฉนดเลขที่ 9586 ตำบลดอนแฝก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ให้แก่โจทก์ในราคาไร่ละ80,000 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา (อันดับ 108 แผ่นที่ 3,109 แผ่นที่ 3) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 108 แผ่นที่ 2) ชั้นอุทธรณ์ โจทก์ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ตามคำร้องผู้ร้องขอให้งดการบังคับคดี ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้ก่อนอันเป็นการขอให้คุ้มครองประโยชน์ ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 พิเคราะห์แล้วเห็นเป็นการสมควร จึงให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นไว้ในระหว่างอุทธรณ์ (อันดับ 93)

คำสั่ง ตามคำร้องเป็นการขอให้สั่งคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ไว้ ในระหว่างฎีกา พิเคราะห์แล้ว เห็นสมควรให้ระงับการบังคับตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไว้ในระหว่างฎีกา

Share