แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องทั้งสองฎีกา มีทางชนะคดี ขอศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีไว้จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา หมายเหตุ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แถลงคัดค้าน (อันดับ 83) คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ไพบูลย์ จำกัด เด็ดขาดในการจัดกิจการและทรัพย์สินของบริษัทฯ ปรากฏตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ผู้ร้องที่ 1 เป็นหนี้บริษัทฯตามสัญญากู้จำนวน 1,000,000 บาท โดยมีผู้ร้องที่ 2เป็นผู้ค้ำประกัน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ลงประกาศ ทางหนังสือพิมพ์แจ้งให้ผู้ร้องที่ 1 และผู้ร้องที่ 2 ชำระหนี้จำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย ผู้ร้องทั้งสอง ไม่ปฏิเสธหนี้ภายในกำหนด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงขอให้ ศาลออกคำบังคับและหมายบังคับคดีให้ผู้ร้องทั้งสอง ชำระหนี้ดังกล่าว ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้มีภูมิลำเนาที่แน่นอน การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ส่งหนังสือ แจ้งให้ผู้ร้องชำระหนี้โดยวิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์ เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ร้องไม่ทราบประกาศใน หนังสือพิมพ์จึงไม่อาจปฏิเสธหนี้ภายในกำหนดได้ และจำนวนหนี้ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งให้ผู้ร้องชำระนั้น ไม่ถูกต้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ มีหนังสือทวงถามให้ผู้ร้องชำระหนี้ใหม่ และให้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คำนวณยอดหนี้ใหม่ให้ถูกต้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของ ผู้ร้องทั้งสอง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 81,80) ชั้นอุทธรณ์ ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ งดการบังคับคดี ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า คดีไม่มีเหตุที่จะ งดการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง (อันดับ 73)
คำสั่ง ตามคำร้องเป็นกรณีผู้ร้องทั้งสองขอให้งดการบังคับคดีไว้ ในระหว่างฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(2) ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 153 ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะมีคำสั่งว่ามีเหตุสมควรให้งดการบังคับคดีไว้หรือไม่ ศาลฎีกาไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้งดการบังคับตามคำร้องของ ผู้ร้องทั้งสองให้ได้ ให้ยกคำร้อง