แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ศาลชั้นต้นน่าจะสั่งฎีกาของ จำเลยที่ 2เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่ขอขยายไว้ แต่กลับมีคำสั่งไม่รับฎีกาทั้งที่จำเลยที่ 2 ยังมีสิทธิ ยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีในศาลชั้นต้น หรือศาลอุทธรณ์รับรองฎีกาได้อยู่คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ ไม่รับฎีกาจึงมิชอบด้วยกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้เวลา จำเลยที่ 2 ในการที่จะยื่นคำร้องขออนุญาตให้จำเลยที่ 2 ฎีกาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 197 แผ่นที่ 2)
ระหว่างพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 1ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 พร้อมบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากโฉนดเลขที่ 1602 ตำบลศิลาลอยอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะส่วนที่จำเลยที่ 2ครอบครอง กับให้จำเลยที่ 2 ชำระ ค่าเสียหายเดือนละ 500 บาท แก่โจทก์ นับแต่วันฟ้อง เป็นต้นไปจนกว่าจะส่งมอบที่ดินคืนโจทก์ ยกฟ้องแย้งจำเลยที่ 2
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 145 แผ่นที่ 3)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 195)
คำสั่ง
ศาลฎีกายกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 2 ที่ขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาคำสั่งของศาลชั้นต้น ที่ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 จึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง