แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา คดีมีเหตุผลที่จะชนะโจทก์ได้โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 115)
กรณีเป็นชั้นบังคับคดี
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้เงินกู้ 41,431 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12 ต่อปี จากต้นเงิน30,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2525 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้ยึดที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 458ตำบลทนงอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ของจำเลยที่ 2 ที่ 3ซึ่งค้ำประกันหนี้เงินกู้ของจำเลยที่ 1 ไว้ ออกขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ ต่อมาจำเลยที่ 2 ผ่อนชำระให้โจทก์เป็นเงิน 18,000 บาทแล้วไม่ชำระอีก โจทก์จึงยึดที่ดินแปลงดังกล่าวแล้วขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2530 มีผู้ซื้อได้ในราคา 40,000 บาท ต่อมาวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2531 จำเลยที่ 2ยื่นคำร้องว่าการขายทอดตลาดกระทำโดยไม่สุจริต เพราะโจทก์และผู้ซื้อ กับผู้ทอดตลาดรู้อยู่ว่าที่ดินราคาสูงแต่ขายทอดตลาดได้ราคาต่ำมาก ฝ่าฝืนบทบัญญัติเกี่ยวกับการบังคับคดี ขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิก การบังคับคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าการบังคับคดีชอบแล้ว ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2530 และจำเลยที่ 2 ก็มาศาลในวันดังกล่าวจึงทราบเหตุที่อ้างว่าการขายทอดตลาดฝ่าฝืนบทบัญญัติเกี่ยวกับการบังคับคดีในวันขายทอดตลาดนั้นแล้วจะต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายภายในเวลาไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้นคือภายในวันที่ 2 ธันวาคม 2530 แต่จำเลยเพิ่งมายื่นคำร้องเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2531 เลยเวลาที่กำหนดตามกฎหมายแล้ว ที่ศาลชั้นต้นสั่ง ยกคำร้องของจำเลยที่ 2 นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นชอบด้วยในผล พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 111,110)
คำสั่ง
กรณีมิใช่เป็นเรื่องขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 ได้พิเคราะห์คำร้องของผู้ร้องโดยตลอดแล้ว ผู้ร้องมิได้ขอให้ศาลฎีกาสั่งประการใด นอกจากขอให้สั่งทุเลาการบังคับ เมื่อกรณีมิใช่เป็นเรื่องขอ ทุเลาการบังคับ จึงให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
