แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์อุทธรณ์อ้างแต่เพียงว่าสมควรได้รับค่าเสียหายตามฟ้องโดยไม่ได้หยิบยก ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายใดขึ้นสนับสนุน จึงเป็นอุทธรณ์ที่มิได้กล่าวโดยชัดแจ้ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 ประกอบมาตรา 31 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน จึงไม่รับอุทธรณ์
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์กล่าวโดยชัดแจ้ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบมาตรา 31พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน และวิธีพิจารณาคดีแรงงานทุกประการ และเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ด้วย
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 50,51)
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกจ้างโจทก์ ได้เบิกความอันเป็นเท็จต่อศาลแรงงานกลาง (ศาลจังหวัดสีคิ้ว)ในคดีหมายเลขแดงที่ 3293-3294/2536 เป็นเหตุให้ศาลแรงงานกลาง หลงเชื่อและพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ต้องถูกศาลบังคับให้ชำระเงินแก่จำเลยทั้งสองนี้เป็นเงิน 75,000 บาท และ 20,252 บาท ตามลำดับ ทั้งการที่โจทก์ต้องถูก บังคับคดีทำให้ต้องเสียชื่อเสียงในการค้า คิดเป็นค่าเสียหายอีก 100,000 บาท ความจริงแล้วจำเลยทั้งสองได้กระทำความเสียหาย แก่โจทก์ในขณะที่ทำงานกับโจทก์คิดเป็นเงิน 100,000 บาท ขอให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว พร้อมด้วยดอกเบี้ย
อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางมีคำวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ที่ขอให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายที่ต้องถูกบังคับ ให้ชำระเงินแก่จำเลยทั้งสอง อันเกิดจากการเบิกความอันเป็นเท็จและที่ทำให้โจทก์เสียหายต่อชื่อเสียงในทางการค้า ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงาน
ต่อมาศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ดังกล่าว (อันดับ 45)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 46)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของโจทก์กล่าวไว้แต่เพียงว่า โจทก์สมควรได้รับค่าเสียหายตามฟ้อง มิได้ยกเหตุผลขึ้น โต้แย้งคัดค้านไว้ให้ชัดแจ้งในอุทธรณ์ว่า ศาลแรงงานกลางพิพากษา ไม่ถูกต้องอย่างไร และที่ถูกต้องเป็นอย่างไร จึงเป็นอุทธรณ์ ที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน และวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 31 ให้ยกคำร้อง