แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอกสารท้ายคำให้การที่จำเลยอ้างถึงในคำให้การถือเป็นส่วนหนึ่งของคำให้การจึงไม่ต้องระบุอ้างเอกสารดังกล่าวในบัญชีระบุพยานอีกศาลรับฟังได้ การที่จำเลยไม่เสียค่าอ้างเอกสารนั้นไม่ปรากฎว่าจำเลยจงใจฝ่าฝืนไม่เสียและศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งเรียกเก็บจึงมิใช่ความบกพร่องของจำเลยไม่ควรยกเป็นเหตุไม่รับฟังเอกสาร จำเลยให้การต่อสู้ใจความว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินจากโจทก์ตามฟ้องไม่เคยทำสัญญากู้เงินกับโจทก์โจทก์บังคับให้จำเลยลงลายมือชื่อในกระดาษเปล่าเป็นการปฏิเสธฟ้องโจทก์โดยสิ้นเชิงและอ้างที่มาแห่งสัญญากู้เงินตามฟ้องว่ามีความเป็นมาอย่างไรเป็นคำให้การที่ชัดแจ้งไม่ขัดกันที่ศาลอุทธรณ์ภาค2ไม่เชื่อว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ตามฟ้องจึงมิใช่การวินิจฉัยนอกประเด็น
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ บังคับ จำเลย ชำระหนี้ เงินกู้ จำนวน 161,250 บาทพร้อม ดอกเบี้ย
จำเลย ให้การ ต่อสู้ คดี ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา โดย ผู้พิพากษา ที่ ได้ นั่งพิจารณา ใน ศาลอุทธรณ์ ภาค 2รับรอง ให้ ฎีกา ใน ข้อเท็จจริง
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ปัญหา ที่ จะ ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ โจทก์ประการ แรก ว่า การ ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 รับฟัง เอกสาร ท้าย คำให้การหมายเลข 1, 2, 3 และ 4 เป็น การ รับฟัง พยานหลักฐาน ที่ ไม่ชอบเพราะ จำเลย มิได้ ยื่น บัญชีระบุพยาน และ ไม่ได้ เสีย ค่า อ้าง เอกสาร นั้นเห็นว่า จำเลย ยื่นคำให้การ ปฏิเสธ ว่า ไม่ได้ กู้เงิน จาก โจทก์ลายมือชื่อ จำเลย ใน สัญญากู้เงิน ตาม ฟ้องโจทก์ บังคับ ให้ ลงลายมือชื่อเหตุ แห่ง การ ปฏิเสธ ต่อสู้ ปรากฎ ตาม เอกสาร ท้าย คำให้การ ที่ จำเลยได้ ถ่าย เป็น สำเนา รับรอง ถูกต้อง ติด มา ด้วย แล้ว ซึ่ง ถือว่า เป็นส่วน หนึ่ง ของ คำให้การ จำเลย จึง ไม่ต้อง ระบุ อ้าง เอกสาร ดังกล่าวใน บัญชีระบุพยาน อีก ส่วน ค่า อ้าง เอกสาร นั้น ไม่ ปรากฎ ว่า จำเลย จงใจฝ่าฝืน ไม่เสีย และ ศาลชั้นต้น ก็ มิได้ สั่ง เรียกเก็บ จึง มิใช่ความ บกพร่อง ของ จำเลย ไม่ควร ยก เป็นเหตุ ไม่รับ ฟัง ทั้ง โจทก์ได้รับ สำเนา แล้ว มิได้ ปฏิเสธ ว่า เอกสาร ดังกล่าว ไม่ถูกต้องเมื่อ จำเลย นำสืบ ปฏิเสธ ว่า ไม่ได้ กู้เงิน จาก โจทก์ แต่ ถูก โจทก์ บังคับให้ ลงลายมือชื่อ โดย มี สาเหตุ จาก บุตรสาว จำเลย ซึ่ง เป็น ภริยาโจทก์ ถูก โจทก์ ทารุณ จึง หลบหนี โจทก์ นำ จำเลย มา คุมขัง เพื่อ บีบบังคับให้ บุตรสาว จำเลย กลับมา หา โจทก์ และ ใน ระหว่าง นั้น โจทก์ บังคับให้ จำเลย ลงลายมือชื่อ ใน กระดาษ เปล่า การ ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 รับฟังข้อ นำสืบ ของ จำเลย แล้ว วินิจฉัย ว่า น่าเชื่อ เพราะ มี เอกสาร ดังกล่าวสนับสนุน อันเป็น การ ใช้ ดุลพินิจ ชั่งน้ำหนัก พยานหลักฐาน ของ จำเลย ว่ามี น้ำหนัก น่าเชื่อ หรือไม่ เพียงใด จึง เป็น การ รับฟัง พยานหลักฐาน โดยชอบ
ฎีกา ของ โจทก์ ประการ ที่ 2 ที่ ว่า คำให้การ ของ จำเลยให้การ ต่อสู้ เป็น สอง นัย ขัด กัน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึง ไม่มี ประเด็น นำสืบการ ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 วินิจฉัย ว่า ไม่มี การกู้ยืมเงิน ตาม ที่ จำเลยให้การ จึง เป็น การ วินิจฉัย นอกประเด็น นั้น เห็นว่า จำเลย ให้การต่อสู้ ใจความ ว่า จำเลย ไม่ได้ กู้เงิน จาก โจทก์ ตาม ฟ้อง ไม่เคยทำ สัญญากู้เงิน กับ โจทก์ โจทก์ บังคับ ให้ จำเลย ลงลายมือชื่อใน กระดาษ เปล่า จึง เป็น การ ปฏิเสธ ฟ้องโจทก์ โดย สิ้นเชิง และ อ้างที่มา แห่ง สัญญากู้เงิน ตาม ฟ้อง ว่า มี ความ เป็น มา อย่างไร จึง เป็นคำให้การ ที่ ชัดแจ้ง ไม่ ขัด กัน ดังนั้น ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2วินิจฉัย พยานหลักฐาน ทั้ง สอง ฝ่าย แล้ว ไม่ เชื่อ ว่า จำเลย ทำ สัญญากู้เงิน โจทก์ ตาม ฟ้อง จึง มิใช่ การ วินิจฉัย นอกประเด็น แล้ว ศาลฎีกาวินิจฉัย ข้อเท็จจริง ว่า จำเลย ไม่ได้ กู้เงิน โจทก์ ตาม ฟ้อง
พิพากษายืน