แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องฎีกา มีมูลพอที่จะชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แถลงคัดค้าน (อันดับ 115)
คดีสืบเนื่องจากศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์บริษัทเงินทุนซินเซียร์ทรัสต์ จำกัด ลูกหนี้ เด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คจำนวน 2 ฉบับรวมเป็นเงิน 1,052,084 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ผู้ร้องได้มีหนังสือปฏิเสธหนี้ แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วมีคำสั่งยืนยันหนี้ดังกล่าว ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลว่าผู้ร้องไม่เคยทำสัญญาขายลดเช็คกับลูกหนี้ ไม่เคยได้รับเงิน 1,052,084 บาท จากการขายลดเช็ค สัญญาขายลดเช็คเป็นสัญญาปลอม ขอให้จำหน่ายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คัดค้านศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ผู้ร้องชำระเงิน 1,052,084บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 104,167 บาท และ947,917 บาท นับแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2528 และวันที่ 16 กันยายน2528 อันเป็นวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คแต่ละฉบับตามลำดับเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทเงินทุนซินเซียร์ทรัสต์ จำกัด ลูกหนี้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา โดยได้รับอนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 111,116)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์แต่ผู้ร้องไม่วางหลักประกันภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด(อันดับ 99 แผ่นที่ 5,102)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าผู้ร้องหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงินแต่ละจำนวนและนับแต่เวลาที่กำหนดให้ชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จนถึงวันฟังคำสั่งนี้และต่อไปอีก 1 ปี มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกามิฉะนั้นให้ยกคำร้อง
