แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีเหตุผลที่จะชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 180 แผ่นที่ 3)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งรถแทรกเตอร์ แบบแคตเตอร์พิลล่าชนิดตัก 955 เค คืนโจทก์ พร้อมค่าเสียหายคิดเป็นดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงินจำนวน 150,000 บาท นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะส่งมอบรถพิพาทคืนโจทก์หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา 150,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์เช่นกันศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องชำระค่าเสียหายคิดเป็นดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงินจำนวน 150,000บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 174,175)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ แต่จำเลยไม่วางหลักประกันตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำขอของโจทก์แต่ต่อมาศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้งดการบังคับคดีไว้ในระหว่างอุทธรณ์เนื่องจากจำเลยและผู้มีชื่อได้นำหลักทรัพย์มาวางเป็นประกัน และได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 121,130,155)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงิน 150,000 บาท(หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกามิฉะนั้นให้ยกคำร้อง