คำสั่งคำร้องที่ 2704/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามฎีกาของจำเลยเป็นเรื่องคัดค้านว่าคดีนี้เป็นคดี ไม่มีทุนทรัพย์ ซึ่งคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ในเรื่อง ทุนทรัพย์ตามรายงานกระบวน พิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2536 นั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ของศาลอุทธรณ์ภาค 3 แต่จำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่ง ระหว่างพิจารณานี้ไว้จึงไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่ง ไม่รับฎีกาของจำเลย คืนค่าขึ้นศาลแก่จำเลย
จำเลยเห็นว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ให้จำหน่ายคดีทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง จำเลยจึงมีสิทธิฎีกาได้ โดยไม่ต้องโต้แย้งคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 3 และการที่ จำเลยยื่นคำร้องขอวางเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มก็เป็นการ โต้แย้งคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 3 อยู่แล้ว โปรดมีคำสั่ง รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 126)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารรื้อถอนต้นปาล์มและสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินพิพาทตามรูปแผนที่พิพาท เอกสารหมาย จ.3 ในขอบเขตจุดสีน้ำเงินห้ามเกี่ยวข้องอีกต่อไป
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ทำคำพิพากษาเสร็จแล้วก่อนอ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ที่ยังขาดอยู่ จากจำเลยให้ครบถ้วนภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถ้าจำเลยไม่ยอมชำระให้ศาลชั้นต้นงดอ่านคำพิพากษาแล้วส่ง สำนวนและซองคำพิพากษาคืนศาลอุทธรณ์ภาค 3 เพื่อดำเนินการ ต่อไป ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้มีหมายนัดแจ้งให้จำเลย นำเงินค่าขึ้น ศาลชั้นอุทธรณ์มาวางเพิ่มแต่จำเลยไม่ได้ นำเงินมาวางภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชั้นต้นจึง งดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3และส่งสำนวนคืน ศาลอุทธรณ์ภาค 3
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งว่าถือได้ว่าจำเลยทั้งอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ประกอบด้วยมาตรา 246 ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ศาลอุทธรณ์ภาค 3
จำเลยฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 122)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 126)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษาในส่วนของการ โต้แย้งคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ไม่อนุญาตให้จำเลย ชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เพิ่มที่เลยกำหนดระยะเวลานั้นแล้ว ฎีกาคำสั่งฉบับนี้จึงไม่เป็นสาระอันควรแก่การวินิจฉัย ให้ยกคำร้อง

Share