แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง,47,48 วรรคหนึ่ง,69 วรรคสอง(1),73 วรรคสอง(1) พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 มาตรา 6 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 19พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2525 มาตรา 4พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 6,16(2), 24,29 พระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าวัง น้ำเขียวและป่าครบุรีในท้องที่ตำบลสะแกราชตำบลวังน้ำเขียวอำเภอปักธงชัยตำบลครบุรีตำบลจระเข้หินตำบลโคกกระชายอำเภอครบุรี และตำบลสระตะเคียน ตำบลโนนสมบุรณ์อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และป่าแก่งดินสอป่าแก่งใหญ่และป่าเขาสะโตนในท้องที่ตำบลบุพราหมณ์ ตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติพ.ศ.2524 ให้ไว้ ณ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2524ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ประกาศ ณ วันที่3 พฤศจิกายน 2499 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4 เป็นการกระทำผิดสี่กรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานทำไม้ยาง โดยไม่ได้รับอนุญาตและทำด้วยประการใดให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพไม้หวงห้ามภายในเขตอุทยานแห่งชาติ เป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง,72 วรรคสอง(1) อันเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุก 1 ปี ฐานแปรรูปไม้ยางโดยไม่ได้รับอนุญาตฐานมีไม้ยางแปรรูปและฐานมีไม้ยางยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกกระทงละ 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ในชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทา โทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกกระทงละ 8 เดือน รวม 4 กระทง จำคุก 2 ปี 8 เดือนริบของกลางศาลไม่ได้ลงโทษปรับจึงไม่อาจสั่งจ่ายสินบนนำจับ ยกคำขอส่วนนี้
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (ถ้อย สำนวน อันดับ 1)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงยังไม่มีเหตุสมควรให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง