คำสั่งคำร้องที่ 2695/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า ผู้ร้องทั้งสองยื่นฎีกาไว้ บัดนี้โจทก์และผู้ร้องทั้งสองตกลงกันได้โดยไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายต่อกันอีก ผู้ร้องทั้งสองมีความประสงค์ขอถอนฟ้องฎีกา โปรดอนุญาตและคืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาแก่ผู้ร้องทั้งสองด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงข้างคำร้องไม่ค้ดค้าน (สำนวนร้องขัดทรัพย์ที่ 1 อันดับ 266)
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2ชำระหนี้ตามสัญญากู้ให้โจทก์ทั้งนี้ไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดแก่จำเลยที่ 1 ที่ 2 แต่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่ยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่2631 ถึง 2702 และโฉนด 2544 รวม 73 แปลง เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ตั้งอยู่ที่ตำบลปึกเตียน (เดิมตำบลหนองจอก) อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี มีชื่อนายศิริเลาหกุลจิตต์ (ผู้ตาย) เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องว่าที่ดินที่โจทก์นำยึดเป็นกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองของผู้ร้องทั้งสอง เนื่องจากเดิมที่ดินดังกล่าวมีหลักฐานเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์หมายทะเบียนเล่ม 20 หน้า 69 สารบบเล่มเลขที่ 120 เนื้อที่ประมาณ 24 ไร่59 ตาราง เป็นของนายศิริต่อมานายศิริได้ตกลงขายให้แก่ผู้ร้องทั้งสองแต่ไม่ได้โอนทางทะเบียนเพียงแต่ส่งมอบการครอบครอง แล้วผู้ร้องทั้งสองได้มอบหมายให้นายศิริเป็นตัวแทนรังวัดออกโฉนดและแบ่งแยกเป็นโฉนดแปลงเล็ก ๆ ได้ 73 แปลง หลังจากนายศิริตายแล้วผู้ร้องทั้งสองได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 กับบุตรทั้งหมดซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของนายศิริ (ผู้ตาย) ให้โอนทะเบียนที่ดินให้ผู้ร้องทั้งสองตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 125/2528 ของศาลนี้สิทธิของผู้ร้องทั้งสองมีอยู่ก่อนที่โจทก์จะนำยึด จึงขอให้ปล่อยทรัพย์คือที่ดินที่ยึดรวม 73 โฉนด
ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้องของผู้ร้องทั้งสอง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องทั้งสองฎีกา (สำนวนร้องขัดทรัพย์ที่ 1 อันดับ 220)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องดังกล่าว (สำนวนร้องขัดทรัพย์ที่ 1 อันดับ 266)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ผู้ร้องทั้งสองถอนฎีกาได้ ให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความของศาลฎีกา คืนค่าขึ้นศาลให้สามในสี่

Share