แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า ศาลอุทธรณ์รับฟังข้อเท็จจริงนอกเหนือไปจากที่ปรากฏในสำนวน เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่ง รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง นับเป็น เหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือนริบเฮโรอีนของกลาง คืนธนบัตรจำนวน 30 บาท แก่เจ้าของ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 63)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 64)
คำสั่ง
การรับฟังข้อเท็จจริงไม่ตรงตามคำเบิกความพยานเป็น ปัญหาข้อกฎหมาย แต่ข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงกับคำเบิกความพยาน ที่จำเลยฎีกาโต้เถียงมานั้น เป็นข้อที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานจำเลยขัดแย้งกันและมีพิรุธ ไม่อาจรับฟังหักล้างพยานหลักฐาน โจทก์ ข้อที่จำเลยโต้เถียงแม้จะเป็นอย่างที่จำเลยอ้าง ก็ไม่ทำ ให้การรับฟังพยานหลักฐานโจทก์เปลี่ยนแปลง ข้อกฎหมายดังกล่าว ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ประกอบด้วยประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15ให้ยกคำร้อง