แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ อยู่ในระหว่างรอการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาบัดนี้ มีข้อเท็จจริงปรากฏขึ้นมาใหม่ว่าโจทก์ได้ยินยอมให้นายทรง องค์ชัยวัฒนะ จำเลยผู้หนึ่งเช่าที่ดินพิพาทโดยผู้เช่ายินยอมให้บริวารซึ่งเป็นจำเลยอื่น ๆ ในคดีนี้อาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทต่อไป โปรดพิจารณาข้อเท็จจริงดังกล่าวที่เกิดขึ้นใหม่ในภายหลังซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์ แล้วพิพากษาคดีต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงข้างคำร้องว่าได้รับสำเนาแล้ว(อันดับ 216)
คดีสิบสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นสั่งรวมการพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันกับคดีอื่นอีกสิบสำนวน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่พิพาท ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องต่อไป ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยในสำนวนคดีหมายเลขแดงที่ 74,76,77,80,82,84,85,90,92,93/2527 ของศาลชั้นต้น ฎีกา (อันดับ 132)
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จ ส่งไปให้ศาลชั้นต้นเพื่ออ่านให้คู่ความฟัง (อันดับ 180)
ก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ทนายจำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 217,216)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว หากจะมีข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นใหม่ในภายหลังก็เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะขอให้เลื่อนการอ่านหรืองดการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาซึ่งได้ทำคำพิพากษาเสร็จแล้วส่งไปให้ศาลชั้นต้นเพื่ออ่าน ให้ยกคำร้องลงวันที่ 26 กันยายน2531 และคำร้องลงวันที่ 31 มกราคม 2532 ของผู้ร้องเสียส่งสำนวนและของคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3470-3479/2530 คืนศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการอ่านคำพิพากษาดังกล่าวให้คู่ความฟังต่อไป