คำสั่งคำร้องที่ 2633/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้าม ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 จึงไม่รับอุทธรณ์ จำเลยเห็นว่า จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลฎีกานำข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางได้ฟังเป็นยุติแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยเป็นลูกจ้างนายจ้างกันหรือไม่และค่าตอบแทนที่โจทก์ได้รับจากจำเลยเป็นค่าจ้างหรือไม่ และอุทธรณ์ที่ว่า โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินโบนัสจากจำเลยเพราะคำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางขัดกับข้อความตามเอกสารหมาย จ.7 ข้อ 5.3 ล้วนเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 62,63) ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย จำนวน 97,308 บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน32,436 บาท ค่าเสียหายจำนวน 45,000 บาท และเงินโบนัสจำนวน 10,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีสำหรับค่าชดเชยให้นับแต่วันเลิกจ้าง (วันที่ 29 มกราคม 2538)ส่วนสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าเสียหาย และเงินโบนัสให้นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2538) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับ อุทธรณ์ดังกล่าว (อันดับ 55) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 59)

คำสั่ง พิเคราะห์อุทธรณ์จำเลยแล้ว ข้อกฎหมายทุกข้อที่จำเลยอ้าง จำเลยได้ยกข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและนอกเหนือจากข้อเท็จจริง ที่ศาลแรงงานกลางได้วินิจฉัยเป็นยุตินั้นแล้วอาศัยข้อเท็จจริง ที่จำเลยเพิ่มเติมนอกเหนือดังกล่าวนี้เป็นหลักในการสรุป เป็นปัญหาข้อกฎหมายทุกข้อที่อุทธรณ์ อุทธรณ์ข้อกฎหมาย ทุกข้อที่จำเลยอ้างเป็นเพียงผลแห่งการโต้แย้งการรับฟัง ข้อเท็จจริงของศาลแรงงานกลางเท่านั้น จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามดังที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่ง ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยนั้นถูกต้องแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์คำสั่งจำเลยฟังไม่ขึ้น ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งจำเลย

Share