คำสั่งคำร้องที่ 2624/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า คดีอยู่ภายในกำหนดเวลาฎีกา เนื่องจาก โจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงกันได้แล้ว โจทก์ไม่ประสงค์ จะดำเนินคดีอีกต่อไป จึงขอถอนฟ้องคดีนี้ โปรดอนุญาต หมายเหตุ จำเลยทั้งสองแถลงไม่คัดค้าน (อันดับ 121) ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้ปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 10,000 บาท และให้จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 5 เดือนจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้ปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 5,000 บาท และให้จำคุกจำเลยที่ 2มีกำหนด 2 เดือน 15 วัน หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 เดือน จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 เดือน สำหรับจำเลยที่ 1 หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีอยู่ภายในกำหนดเวลาฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นสั่งว่า ส่งสำนวนไปศาลฎีกาโดยเร็ว (อันดับ 121)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องในระยะเวลาฎีกาโดยที่ยังไม่มีการยื่นฎีกา จึงเป็นอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะสั่งคำร้องขอถอนฟ้องไปได้ แต่ในเมื่อศาลชั้นต้นส่งสำนวนมาให้ศาลฎีกาพิจารณาเช่นนี้ เพื่อมิให้คดี ต้องล่าช้าไปศาลฎีกาจึงเห็นควรสั่งไปเสียทีเดียว โดยที่ คดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวโจทก์จะถอนฟ้องในเวลาใด ก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ โจทก์ถอนฟ้อง จำเลยทั้งสองไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

Share