คำสั่งคำร้องที่ 2528/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า อำนาจ ในการอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เป็นดุลพินิจของอธิบดี ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 โดยเฉพาะ จึงไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยเห็นว่า คำสั่งของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1ที่ไม่อนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คือ คำสั่ง โดยทั่วไปที่จำเลยสามารถฎีกาต่อศาลฎีกาได้ โปรดมีคำสั่ง รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (สำนวนตอนที่ 2 อันดับ 17) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินตามหนังสือรับรอง การทำประโยชน์ (น.ส.3) เล่มที่ 30 หน้า 13 สารบบเล่ม เลขที่ 62 หมู่ที่ 2 ตำบลกุดลาด อำเภอเมืองอุบลราชธานีจังหวัดอุบลราชธานี และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)เลขที่ 612 ตำบลกุดลาด อำเภอเมืองอุบลราชธานีจังหวัดอุบลราชธานี ให้แก่โจทก์แปลงละ 1 ใน 5 ส่วน หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยคำขอนอกจากนี้ให้ยก ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ไม่รับฎีกาคืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาแก่จำเลย จำเลยยื่นคำร้องขอให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1อนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งว่าไม่มีเหตุสมควรที่จะอนุญาต ให้จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริง ให้ยกคำร้อง (สำนวนตอนที่ 2 อันดับ 9) จำเลยฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(สำนวนตอนที่ 2 อันดับ 11) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (สำนวนตอนที่ 2 อันดับ 12)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในคดีนี้ เป็นอำนาจเฉพาะตัวของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์ภาคพ.ศ. 2532 มาตรา 4 เมื่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1ไม่อนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงแล้ว จำเลยจะฎีกาคำสั่งของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 หาได้ไม่ ให้ยกคำร้อง

Share