แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้อง ขอให้ผู้พิพากษาผู้พิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น รับรองว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงวินิจฉัยชี้ขาดทั้งปัญหา ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อ ในคำพิพากษาศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่าคดีนี้ต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรี และตามบทบัญญัติในมาตรา 221 ไม่ได้ให้ศาล อนุญาตให้ฎีกาในกรณีดังกล่าวได้ ให้ยกคำร้อง และศาลชั้นต้น สั่งฎีกาว่า คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรี และศาลไม่อาจอนุญาตให้ฎีกาได้ จึงไม่รับฎีกา ส่วนฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายนั้นเป็นข้อที่จำเลยไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้ว แต่ในศาลอุทธรณ์ภาค 2 และไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับ ความสงบเรียบร้อย จึงไม่รับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 225 ประกอบมาตรา 195 จำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาที่ว่า คำพิพากษาศาลล่างไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะไม่ได้ระบุบทมาตราที่จำเลยกระทำผิด คงระบุเฉพาะบทลงโทษเท่านั้น ทั้งบทมาตราที่พิพากษา ได้ถูกยกเลิกแล้ว เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความ สงบเรียบร้อย จำเลยทั้งสองยกขึ้นฎีกาได้ ส่วนฎีกาปัญหา ข้อเท็จจริงที่ขอให้รอการลงโทษจำเลยทั้งสอง แม้คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนให้กักขังแทนโทษจำคุกก็ตามแต่ควรตีความในทางเป็นคุณแก่จำเลยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 สมควรรวมกรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรีดังกล่าวด้วย ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 73 วรรคแรก และพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตรา 23 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมาตรา 91 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นความผิดไป ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484ให้จำคุกคนละ 6 เดือน ความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคมพ.ศ. 2498 ให้ปรับคนละ 10,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 3 เดือน และปรับคนละ 5,000 บาท และคดีไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้ลงโทษกักขังแทนโทษจำคุก หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนค่าปรับ ในกรณีกักขังแทนค่าปรับให้นับโทษกักขังต่อจากโทษกักขัง ที่ศาลพิพากษา ริบไม้ของกลางและริบวิทยุของกลางไว้ใช้ ในราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้รับรองว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงจะวินิจฉัย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 50,49) จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 53)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรี นั้นไม่อยู่ในอำนาจของผู้พิพากษาที่พิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษา ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้ฎีกาได้ตามมาตรา 221 ส่วนข้อกฎหมายที่ จำเลยทั้งสองฎีกาว่า ศาลล่างมิได้ยกบทมาตราที่จำเลยทั้งสอง กระทำผิดมาปรับในคำพิพากษานั้น เห็นว่า บทลงโทษที่ศาลล่าง ระบุไว้ในคำพิพากษาได้เท้าความถึงบทมาตราที่จำเลยทั้งสอง ได้กระทำผิดอยู่แล้ว ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง