แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งแปดสำนวนอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์โจทก์เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องห้าม จึงไม่รับ โจทก์ทั้งแปดเห็นว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งแปดเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมเพราะขณะเลิกจ้าง จำเลยไม่ได้ประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่องสะสม และหน้าที่การงานของโจทก์ทั้งแปดยังคงมีอยู่แต่จำเลยให้บุคคลอื่นทำแทนนั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งแปดสำนวนไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 61) คดีทั้งแปดสำนวนนี้ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่ง ให้รวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน โดยให้เรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่า โจทก์ที่ 1 ถึงโจทก์ที่ 8 โจทก์ทั้งแปดฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมแก่โจทก์ทั้งแปด จำนวน 534,300 บาท 466,200 บาท 455,100 บาท 655,500 บาท 159,840 บาท 150,360 บาท 487,500 บาท และ 159,480 บาท ตามลำดับ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่า ชำระเสร็จแก่โจทก์และเฉพาะโจทก์ที่ 5 ที่ 6 ให้จำเลย รับโจทก์ที่ 5 ที่ 6 เข้าทำงานโดยนับอายุงานต่อเนื่อง เสมือนหนึ่งมิได้มีการเลิกจ้างและจ่ายค่าเสียหายให้โจทก์ที่ 5 ที่ 6 เดือนละ 13,320 บาท 12,530 บาท ตามลำดับ นับแต่ วันเลิกจ้างจนกว่ารับโจทก์เข้าทำงาน หากไม่สามารถรับโจทก์ เข้าทำงานได้ ก็ให้ใช้ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม กับให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ที่ 6 จำนวน 37,590 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง จนกว่าชำระเสร็จ ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง โจทก์ทั้งแปดสำนวนอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่ง ไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว (อันดับ 57) โจทก์ทั้งแปดสำนวนจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 58)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งแปด เป็นอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจการรับฟังพยานหลักฐานของ ศาลแรงงานกลางที่ฟังว่าจำเลยประสบสภาวะขาดทุนและจำเลย ไม่ได้จ้างลูกจ้างใหม่มาทำงานแทนโจทก์ เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน และวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ที่ศาลแรงงานกลาง สั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งแปดชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง