แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา โดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ คดีทั้งสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกันโดยเรียกโจทก์ในสำนวนแรกว่า โจทก์ที่ 1 เรียกโจทก์ในสำนวนหลังว่า โจทก์ที่ 2 และให้เรียกนายประเสริฐ ศิริวิไลศักดิ์นายสุรศักดิ์ศิริวิไลศักดิ์ ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามลำดับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ประกอบด้วยมาตรา 83 และเฉพาะ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 อีกบทหนึ่ง แต่การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 3 ปี ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ที่ 1 ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (อันดับ 203)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง(อันดับ 193,192)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าวโดยมีคำร้องประกอบ(อันดับ 208,207)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว
ในระหว่างฎีกามาสองครั้งแล้ว ศาลฎีกายกคำร้อง (อันดับ 191,198)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยทั้งสองชั่วคราวทั้งในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โดยในชั้นอุทธรณ์ตีราคาประกันคนละ 100,000 บาท (อันดับ 4,8,148)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกาตีราคาคนละ 150,000 บาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันและดำเนินการต่อไป