คำสั่งคำร้องที่ 2327/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 3มีกำหนด 13 ปี 4 เดือน ริบของกลางทั้งหมด โดยเฉพาะเงินสดให้ริบ86,000 บาท นอกจากนั้นคืนให้จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 3 ได้ยื่นฎีกาต่อมาจำเลยที่ 3 ได้มอบหมายให้ทนายความไปติดต่อกับพนักงานสอบสวนในคดีนี้เพื่อขอรับเงินคืนตามคำสั่งศาล แต่ได้รับแจ้งว่าคดียังไม่ถึงที่สุด คืนเงินให้ตามคำสั่งศาลไม่ได้ การที่พนักงานสอบสวนไม่ยอมคืนเงินแก่จำเลยที่ 3 นั้น ถือว่าไม่ถูกต้อง เป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อคำสั่งของศาลทำให้จำเลยที่ 3 ได้รับความเสียหายขอศาลได้โปรดมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีนี้ (กองปราบปรามสามยอด แผนกที่ 2กองกำกับการที่ 7) คืนเงินส่วนที่เกินจากที่ศาลได้สั่งริบไว้ให้แก่จำเลยที่ 3 ทั้งหมดโดยเร็วด้วย
หมายเหตุ พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานผลิตแอมเฟตามีนจำนวน 175 เม็ด ฐานมีแอมเฟตามีน จำนวน 175 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 13 ประกอบมาตรา 89 เป็นกรรมเดียวกันผิดต่อกฎหมายบทเดียวกัน จึงปรับบทลงโทษตามมาตรา 13 ประกอบมาตรา 89 จำคุก 15 ปีและมีความผิดฐานมีแอมเฟตามีน จำนวน 1,868 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามมาตรา 13 ประกอบมาตรา 89 อีกกระทงหนึ่ง จำคุก15 ปี รวมโทษจำคุก 30 ปี จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 5 และที่ 6มีความผิดฐานร่วมกันผลิตแอมเฟตามีนทั้งชนิดเกล็ด จำนวน 2,048 กรัมและชนิดเม็ดจำนวน 2,800 เม็ด ฐานร่วมกันมีแอมเฟตามีนจำนวนดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมกันจำหน่ายแอมเฟตามีนจำนวน1,868 กรัม ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 13 ประกอบมาตรา 89 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายบทเดียวกันจึงปรับบทลงโทษ ตามมาตรา 13ประกอบมาตรา 89 จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนละ 15 ปี จำเลยที่ 5ที่ 6 เป็นเพียงผู้ช่วยเหลือจำเลยที่ 2 ที่ 3 เท่านั้น เห็นสมควรลงโทษสถานเบาจำคุกจำเลยที่ 5 ที่ 6 คนละ 8 ปี จำเลยที่ 1 ที่ 3ที่ 5 ที่ 6 ต่างรับสารภาพในชั้นจับกุม จำเลยที่ 2 รับสารภาพมาแต่ต้นตั้งแต่ชั้นจับกุมและในชั้นพิจารณาของศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษจำคุกให้จำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 5 ที่ 6 คนละหนึ่งในสามเป็นจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 20 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด10 ปี จำคุกจำเลยที่ 5 ที่ 6 มีกำหนดคนละ 5 ปี 4 เดือน ลดโทษจำคุกให้จำเลยที่ 2 กึ่งหนึ่ง เป็นจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 7 ปี 6 เดือนริบของกลางทั้งหมดยกเว้นเงินสด ริบจำนวน 86,000 บาท ส่วนที่เกินกว่านี้ให้คืนจำเลยที่ 3 ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 4 แต่ให้ขังจำเลยที่ 4 ไว้ในระหว่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 5ที่ 6 มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 4 วรรคเจ็ด,13 วรรคหนึ่ง,89 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ฐานผลิตเมทแอมเฟตามีน จำคุก 10 ปีฐานมีไว้เพื่อขายซึ่งเมทแอมเฟตามีน จำคุก 10 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 20 ปี ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนจำคุก 10 ปี ฐานขายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 10 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 20 ปี ลงโทษจำเลยที่ 3 ฐานร่วมกับจำเลยที่ 2 ขายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 10 ปี ฐานมีไว้เพื่อขายซึ่งเมทแอมเฟตามีนจำคุก 10 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 20 ปี ลงโทษจำเลยที่ 5ที่ 6 ฐานร่วมกับจำเลยที่ 2 ผลิตเมทแอมเฟตามีน เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ควรลงโทษจำเลยที่ 5 ที่ 6 สถานเบา จำคุกจำเลยที่ 5 ที่ 6 คนละ 8 ปี จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณา จำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 5 ที่ 6 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้จำเลยที่ 2 กึ่งหนึ่งและจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 5 ที่ 6 คนละหนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 13 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 2 มีกำหนด 10 ปี จำเลยที่ 3มีกำหนด 13 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 5 ที่ 6 คนละ 5 ปี 4 เดือนริบของกลางทั้งหมด โดยเฉพาะเงินสดให้ริบ 86,000 บาท นอกจากนั้นคืนให้จำเลยที่ 3 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 3 ฎีกา (อันดับ 102)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 107)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว กรณีเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบังคับตามคำพิพากษาเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะมีคำสั่ง จึงให้ส่งเรื่องไปศาลชั้นต้น

Share