แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้มีทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาท ฎีกาของจำเลยที่ 1 (ที่ถูกจำเลยที่ 2) ทุกข้อเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 (ที่ถูกจำเลยที่ 2) จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับฎีกาเกินกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบด้วย มาตรา 234 จึงไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง คืนค่าคำร้องให้ไปทั้งหมด จำเลยที่ 2 เห็นว่า ศาลชั้นต้นมีหน้าที่ต้องส่งคำร้อง อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาพร้อมกับฎีกาและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาและมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 252 โปรดมีคำสั่งให้รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์ทั้งสามได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 6940 ตำบลดอนตาล อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี คนละ 1 ใน 4 ส่วนของเนื้อที่ดินประมาณ 1 ไร่ 1 งาน 24 ตารางวา ให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ดังกล่าว ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ในส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ ของโจทก์ทั้งสามคิดเป็นเนื้อที่ 3 ใน 4 ส่วนของเนื้อที่ดิน ดังกล่าว คำขออื่นของโจทก์ทั้งสามนอกจากนี้ให้ยก ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2 ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน จำเลยที่ 2 ฎีกาฉบับลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2538ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันไม่รับฎีกา (อันดับ 124) จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาฉบับลงวันที่29 สิงหาคม 2538 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้อง เพราะเกินกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย (อันดับ 127) จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง รับคำร้องให้ส่งคำร้องพร้อมสำนวนมาศาลฎีกา (อันดับ 129)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลยที่ 2 มิได้ยื่นภายในกำหนด 15 วัน ศาลชั้นต้น สั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 2 ชอบแล้ว ยกคำร้อง