คำสั่งคำร้องที่ 2261/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา บัดนี้ผู้เสียหายตกลงกับจำเลยที่ 1 ได้และไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยที่ 1 อีกต่อไป จึงขอถอนคำร้องทุกข์หรือถอนฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1 โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 แถลงท้ายคำร้องไม่คัดค้าน
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,83,91 จำเลยที่ 1 มีความผิดรวม 8 กรรม ให้ลงโทษจำคุกกรรมละ 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 8 ปี จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 จำคุกคนละ 1 ปี ข้อหาและคำขอนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 265)
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 275)
ศาลฎีกาทำคำสั่งแล้ว และได้ส่งสำนวนไปศาลชั้นต้น (อันดับ 277)
ก่อนวันฟังคำสั่ง ผู้ร้องยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 302)

คำสั่ง
คดีนี้ นายคำผองเหล่าภักดี ขอถอนคำร้องทุกข์จำเลยที่ 1ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำความผิดต่อผู้เสียหายรายอื่น ๆอีก 7 กระทง กระทำความผิดต่อนายคำผองเหล่าภักดี เพียงกระทงเดียว ดังนั้น เมื่อคดีนี้เป็นคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวและคดียังไม่ถึงที่สุด สิทธินำคดีอาญามาฟ้องต่อจำเลยที่ 1เฉพาะในส่วนที่กระทำต่อนายคำผอง ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ให้จำหน่ายคดีจำเลยที่ 1 เฉพาะในส่วนที่กระทำต่อนายคำผอง

Share