คำสั่งคำร้องที่ 2245/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การที่จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า เช็คพิพาทมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเพียงคนเดียว และเมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธ การจ่ายเงินจำเลยที่ 2 ก็ชำระเงินให้แก่โจทก์บางส่วน เป็นเงิน 150,000 บาท แสดงว่าโจทก์มิได้หลงเข้าใจผิดว่า เป็นกิจการของจำเลยที่ 3 กรณีจึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยที่ 3 รู้แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 เชิดตัวเองเป็นตัวแทนอันจำเลยที่ 3 จะต้องรับผิดฐานตัวการนั้นเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟัง พยานหลักฐานของศาล อันเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 3 คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด จำเลยที่ 3 เห็นว่า ฎีกาที่ว่า จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นตัวการ ไม่ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2 ทำการแทน และไม่ได้เชิดให้ จำเลยที่ 2 ทำการแทนแต่อย่างใด จึงไม่เป็นการกระทำ ในฐานะตัวแทน จะนำกฎหมายเรื่องตัวแทนมาบังคับให้จำเลยที่ 3 รับผิดต่อโจทก์ไม่ได้ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของจำเลยที่ 3 ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันชำระดอกเบี้ย อัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 150,000 บาทนับแต่วันที่ 1 กันยายน 2535 ถึงวันที่ 13 มกราคม 2536 และร่วมกันชำระต้นเงิน 130,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย อัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 14 มกราคม 2536 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 จะร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ เสร็จสิ้น ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 3 ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 3ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แก่โจทก์ จำเลยที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 76) จำเลยที่ 3 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 79)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า จำเลยที่ 3 ฎีกาโต้เถียง คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ว่า โจทก์มีมูลอันควรเชื่อว่า การกระทำของจำเลยที่ 2 อยู่ในขอบอำนาจที่จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คพิพาทแทนจำเลยที่ 3 ได้ โดยจำเลยที่ 3 ฎีกาว่า โจทก์มิได้หลงเข้าใจว่าเป็นกิจการของจำเลยที่ 3 แต่โจทก์เชื่อถือจำเลยที่ 2 ในฐานะส่วนตัวเป็นการโต้แย้ง ข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ฟังมา ฎีกาของจำเลยที่ 3 จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share