แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาจำเลยเป็น ปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218จึงไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า จำเลยขอให้ส่งตัวจำเลยเข้าตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14,65 และอ้าง พยานที่จำเลยไม่ทราบว่ามีอยู่เพื่อสืบพยานในชั้นฎีกานั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 27) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 76 ลงโทษจำคุก 4 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ให้นำโทษจำคุก 3 เดือน ที่รอการลงโทษไว้ ในคดีหมายเลขแดงที่ 3361/2537 ของศาลชั้นต้นนี้มาบวก เข้ากับโทษในคดีนี้ รวมเป็นจำคุก 5 เดือน ริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 26) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 27)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว จำเลยฎีกาขอให้ศาลใช้ดุลพินิจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 ในการลงโทษจำเลยหรือให้ส่งตัวจำเลย เข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการลงโทษ ของศาลอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง