แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218วรคแรก จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์รับฟังพยานหลักฐานนอกสำนวนมาวินิจฉัยลงโทษจำเลยโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 47)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297(1) จำคุก 2 ปี
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 46)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 47)
คำสั่ง
ที่จำเลยฎีกาอ้างว่าเป็นข้อกฎหมายและอ้างว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในสำนวนนั้น เป็นเรื่องที่บิดเบือนข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเพื่อให้เป็นข้อกฎหมาย ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218วรรคแรก ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง