คำสั่งคำร้องที่ 2220/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่รับฎีกาโจทก์เนื่องจากศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้น คำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 ให้คืนค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาทั้งหมดแก่โจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาในประเด็นที่ว่า โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดโดยมีเหตุสุดวิสัยหรือไม่นั้นชอบที่ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานและคำสั่ง ศาลอุทธรณ์ดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 236 แต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์ด้วย
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 63,500 บาท แก่โจทก์ รวมทั้งดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าวตั้งแต่วันฟ้อง (23 พฤศจิกายน 2535) เป็นต้นไป จนถึงวันที่ได้ชำระเสร็จ คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ครบกำหนดขยายระยะเวลาอุทธรณ์ให้โจทก์วันที่19 เมษายน 2536 โจทก์ยื่นอุทธรณ์พ้นกำหนด จึงไม่รับอุทธรณ์
โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดพร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเมื่อพ้นกำหนดมาด้วย ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งว่าโจทก์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลไม่รับอุทธรณ์พ้นกำหนดแล้วจึงไม่รับอุทธรณ์คำสั่งและสั่งคำร้องขอขยายระยะเวลาว่ายังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 63)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 64)

คำสั่ง
คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่ง ศาลชั้นต้น ที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ขยายระยะเวลาที่โจทก์จะยื่นคำร้องอุทธรณ์ คำสั่ง ศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์โจทก์ โดยไม่เกี่ยวกับเนื้อหา ของอุทธรณ์ จึงมิใช่เป็นคำสั่งศาลที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ อันจะทำให้คดีถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 โจทก์มีสิทธิฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247ประกอบด้วยมาตรา 234 ให้รับฎีกาโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป

Share