แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากจำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่ผู้เสียหายแล้วผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลยอีกต่อไป ประสงค์ขอถอนคำร้องทุกข์ โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 3,4 ให้ จำคุก 8 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ แก่การพิจารณา เห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 4 เดือน ส่วนที่ โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยคดีนี้ต่อจากโทษคดีอาญา หมายเลขดำที่ 225/2535 และ 226/2535 ของศาลนี้นั้น ไม่ปรากฏว่าศาลได้มีคำพิพากษาในคดีทั้งสองดังกล่าวแล้ว จึงไม่อาจนับโทษต่อให้ได้ ให้ยกคำขอส่วนนี้
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 3 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 1 เดือน 15 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 64)
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 67)
ผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 65)
คำสั่ง
คดีนี้เป็นความผิดอันยอมความได้และยังไม่ถึงที่สุด เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อม ระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ