แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากโจทก์ได้ย้ายจากสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อไปประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 โจทก์จึงไม่ได้รับสำเนาฎีกาของจำเลยซึ่งเจ้าหน้าที่ส่งหมาย ได้ปิดไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ จนกระทั่งวันที่ 7 กรกฎาคม 2535 โจทก์ได้แต่งทนายความและมอบให้มาตรวจ สำนวน จึงทราบ ว่าจำเลยยื่นฎีกาไว้ เห็นได้ว่าโจทก์มิได้จงใจ ที่จะไม่ยื่น คำแก้ฎีกาภายในกำหนด และทนายโจทก์ต้องการรวบรวม ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อประกอบการเขียนคำแก้ฎีกา โปรดอนุญาตให้โจทก์ แก้ฎีกาและขยายระยะเวลายื่นคำแก้ฎีกาออกไปอีก 20 วัน นับแต่วันยื่นคำร้อง
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80,91,167,137,172,173,174 วรรคสอง,326
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูลให้ประทับฟ้องไว้เฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137,172,173,174 วรรคสอง และมาตรา 326ส่วนข้อหาตามมาตรา 167 เป็นความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม เป็นความผิดต่อรัฐ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 และ 326 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามมาตรา 326 อันเป็นบทหนัก จำคุก 6 เดือน และปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ ไว้มีกำหนด 2 ปี ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172,173,174 วรรคสอง และมาตรา 326 อันเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษ ตามมาตรา 174 วรรคสอง อันเป็นบทหนักที่สุดและจำเลยกระทำความผิดดังกล่าวสองกรรมต่างวาระกัน เรียงกระทงลงโทษ จำคุกกระทงละ 6 เดือน รวมจำคุก 12 เดือน
จำเลยฎีกา (อันดับ 57 แผ่นที่ 2)
โจทก์รับสำเนาฎีกาโดยวิธีปิดหมายวันที่ 1 เมษายน 2535(สำนวนธุรการ อันดับ 65 แผ่นที่ 2)
โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 58)
คำสั่ง
โจทก์จะยื่นคำแก้ฎีกา ต้องยื่นต่อศาลชั้นต้นเมื่อโจทก์อ้างว่าไม่ได้รับสำเนาฎีกาของจำเลยเพราะการส่งสำเนาฎีกาให้แก่โจทก์ไม่ชอบ โจทก์จึงมิได้แก้ฎีกา ภายในกำหนด โจทก์ต้องร้องขอยื่นคำแก้ฎีกาต่อศาลชั้นต้นเพื่อศาลชั้นต้นจะได้ดำเนินการต่อไป โจทก์จะยื่นคำแก้ฎีกาต่อศาลฎีกาทีเดียวไม่ได้ ให้ยกคำร้อง ของ โจทก์