คำสั่งคำร้องที่ 2184/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกาและยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายแล้ว เห็นว่าแม้จำเลยจะถูกยึดทรัพย์ โรงงานหยุดดำเนินกิจการ แต่นายสมกิจ สามัคคีนาวิน กรรมการผู้จัดการจำเลยก็ยังพอมีรายได้จากลูก ๆ และยังมีที่ดินอยู่ที่เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานครเนื้อที่ 50 ตารางวา ตามเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งพอจะไปดำเนินการ หาเงินมาชำระค่าธรรมเนียมศาลได้บ้าง ประกอบกับคดีของจำเลย ก็มีเหตุสมควรจะฎีกา จึงมีคำสั่งให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาล เป็นเงิน 40,000 บาท ค่าธรรมเนียมนอกจากนี้ยกเว้นให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาได้ โดยให้จำเลยนำเงินค่าขึ้นศาลมาชำระภายใน 15 วัน นับแต่วันนี้ จำเลยเห็นว่า บุตร 2 คนของนายสมกิจมีรายได้แค่ พอเลี้ยงตนเองและครอบครัวเท่านั้น โดยบุตร 2 คน ให้เงินนายสมกิจเป็นค่าใช้จ่ายเพียงเดือนละ 3,000-4,000 บาทไม่เหลือพอชำระค่าธรรมเนียมได้ และที่ดินที่เขตบางขุนเทียนมีเนื้อที่เพียงเล็กน้อย นายสมกิจไม่ทราบตำแหน่งที่ดินว่าอยู่ที่ไหน และที่ดินมีชื่อภริยาของนายสมกิจเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โดยไม่ได้มีการตั้งผู้จัดการมรดกและแบ่งมรดก แต่อย่างใด นายสมกิจเคยเสนอที่ดินแปลงดังกล่าวชำระหนี้ให้โจทก์ โจทก์อ้างว่าที่ดินไม่มีราคา นายสมกิจ จึงไม่มีทรัพย์สินใด ๆ ที่จะนำมาขายเพื่อชำระค่าธรรมเนียมประกอบกับจำเลยเป็นนิติบุคคล ทรัพย์สินของจำเลยกับทรัพย์สินของนายสมกิจ กรรมการผู้จัดการย่อมแยกส่วนต่างหากจากกันตามกฎหมาย การที่ศาลชั้นต้นให้นายสมกิจกรรมการของบริษัทจำเลยออกเงินส่วนตัวชำระค่าธรรมเนียมแทนบริษัทจำเลยเป็นการคลาดเคลื่อน เมื่อบริษัทจำเลยถูกยึดทรัพย์จึงต้องปิดเครื่องหยุดการผลิตแก๊สขาย ไม่มีรายได้ทางใดเลย โปรดมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกาอย่างคนอนาถาทั้งหมดด้วย หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 136) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ 57,736,116.28 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงิน 23,171,506.11 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ (วันฟ้อง 23 กรกฎาคม 2534) ถ้าไม่ชำระให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 9582 ตำบลบึงลาดสวาย (คลองหกวาสายล่างฝั่งเหนือ) อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี (ธัญบุรี) พร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็น ทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระแก่โจทก์ ถ้าไม่พอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยขายทอดตลาดนำเงิน มาชำระแก่โจทก์จนครบ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียม ให้บางส่วน (อันดับ 111,109) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 132)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าตามทางไต่สวนยังไม่พอฟังว่าจำเลยจะยากจนถึงขนาดไม่มีทรัพย์สินมาเสียค่าธรรมเนียมศาลเสียทีเดียว ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาล เพียงบางส่วนจึงเหมาะสมและชอบด้วยเหตุผลแล้ว ให้ยกคำร้องหากจำเลยประสงค์จะฎีกาก็ให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลตามจำนวนที่ศาลชั้นต้นกำหนดมาชำระเสียภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันฟังคำสั่งนี้

Share