คำสั่งคำร้องที่ 2182/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า คดีนี้ จำเลยทั้งสามฎีกา โดยเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ 1,840,000 บาท เป็นเงินค่าขึ้นศาล 46,000 บาทแต่ในการตรวจรับฎีกา ศาลชั้นต้นเห็นว่าทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาเป็นเงิน 8,000,000 บาท ให้จำเลยทั้งสามเสียค่าขึ้นศาลเพิ่มจำเลยทั้งสามจึงได้เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มเป็นเงิน 154,000 บาทตามคำสั่งของศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสามเห็นว่า ทุนทรัพย์หรือราคาทรัพย์ที่เรียกร้อง ในชั้นฎีกาเป็นเงินเพียง 1,840,000 บาท ที่ศาลชั้นต้นเห็นว่า ทุนทรัพย์เป็นเงิน 8,000,000 บาท และให้เสียค่าขึ้นศาลเป็นเงิน 200,000 บาท จึงเป็นการมิชอบด้วยประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 วรรคสอง ทำให้จำเลยขาดประโยชน์ ไม่สามารถนำเงินไปประกอบธุรกิจลงทุนหมุนเวียนในกิจการต่าง ๆ ขอศาลฎีกาได้โปรดมีคำสั่งคืนค่าขึ้นศาล 154,000 บาท ที่เสียเกินให้แก่จำเลยทั้งสามก่อนที่ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาชี้ขาดในประเด็น แห่งคดีด้วย โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 248)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 3699 ตำบลคลองลาว อำเภอเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ให้จำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนของตนจำนวนเนื้อที่ 4 ไร่ ซึ่งถือกรรมสิทธิ์รวมอยู่ในที่ดิน โฉนดเลขที่ 3699 ตำบลคลองลาว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทราโดยให้มีหน้ากว้างติดถนนสุวินทวงศ์ จำนวน 68.20 เมตรแก่โจทก์และให้จำเลยที่ 1 รับราคาที่ดินส่วนที่เหลือจากโจทก์ จำนวน 1,740,000 บาท หากจำเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอา คำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาแทน คำขออื่นให้ยก
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสามฎีกา และยื่นคำร้องนี้กับมีคำร้องเพิ่มเติม(อันดับ 233,244 และ 253)

คำสั่ง
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 แล้วจดทะเบียนโอนที่ดินให้กับโจทก์ อันเป็นการฟ้องเรียกที่ดินมาเป็นของโจทก์เป็นคำขอให้ ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามราคาที่ดิน ขณะฟ้องคดีศาลชั้นต้นตีราคาที่ดินเป็นเงิน 8,000,000 บาท และเรียกค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ดังกล่าวโดยคู่ความไม่โต้แย้ง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการโอนที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 แล้วโอนที่ดินให้โจทก์ตามฟ้อง คำขออื่นให้ยก จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสามฎีกา ขอให้พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ฉะนั้นในชั้นฎีกา คงมีประเด็นเพียงว่า โจทก์มีสิทธิขอให้เพิกถอนการโอนที่ดิน ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 และโอนให้โจทก์ ได้หรือไม่ จึงต้องถือทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาตามราคาที่ดิน 8,000,000 บาท ที่ศาลชั้นต้นสั่งในฎีกาของจำเลยทั้งสามว่า คดีนี้มีทุนทรัพย์ 8,000,000 บาทนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล คำร้องของ จำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share