แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ หลังจากที่โจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่นแล้ว โจทก์ได้สืบทราบมาว่า จำเลยบางคนมีอิทธิพลทางการเงินและพรรคพวกจะลอบทำร้ายโจทก์ โจทก์จึงต้องหลบหนีมาอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานครตลอดมา ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2530 หลังจากสืบพยานจำเลยนัดแรกเสร็จแล้วเวลาประมาณ 14.30 นาฬิกา โจทก์ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวกลับกรุงเทพมหานคร โดยมีทนายโจทก์นั่งมาด้วยด้านข้าง ขณะที่รถวิ่งถึงท้องที่อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ได้มีคนร้ายอยู่บนรถกระบะยี่ห้อดัทสัน สีน้ำตาล ขับแซงรถโจทก์ขึ้นมาแล้วใช้อาวุธปืนยิงโจทก์และทนายโจทก์หลายนัด กระสุนถูกโจทก์ที่อวัยวะสำคัญหลายแห่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนทนายโจทก์กระสุนถูกที่แขน 1 นัดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และรถยนต์ของโจทก์ตกลงไปข้างถนนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก โจทก์ขอกราบเรียนว่าคนร้ายนี้ได้ขับรถติดตามโจทก์มาโดยตลอดตั้งแต่โจทก์เดินทางออกจากขอนแก่น และจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ความว่า ที่โจทก์และทนายโจทก์ถูกยิงมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ ดังนั้นหากยังคงให้มีการพิจารณาคดีนี้ที่ศาลจังหวัดขอนแก่นต่อไปอีก น่ากลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายมีการประทุษร้ายต่อชีวิตและร่างกายของโจทก์หรือทนายโจทก์อีกได้ และก็อาจจะมีการขัดขวางการพิจารณา โดยจำเลยอาจจะใช้อิทธิพลทางการเงินหรือสมัครพรรคพวกไม่ให้พยานเบิกความตามความเป็นจริง ขอได้โปรดมีคำสั่งให้โอนคดีนี้มาพิจารณาที่ศาลอาญา ซึ่งเป็นศาลที่โจทก์ทนายโจทก์ และจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจโปรดอนุญาต
หมายเหตุ ทนายจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 และทนายจำเลยที่ 2 ที่ 6ที่ 7 ต่างแถลงคัดค้าน (อันดับ 227,226)
โจทก์ฟ้องและแก้เพิ่มเติมฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งเจ็ดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,90,91,137,264,265,267,268,341,353,354 ฯลฯ พระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิพ.ศ. 2499 มาตรา 41,42
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์ทุกข้อหาโจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ประทับฟ้องโจทก์ทุกข้อหาระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล ศาลชั้นต้นออกหมายจับ และมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะสำหรับจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ชั่วคราว แต่ต่อมาจับจำเลยที่ 3ที่ 4 ได้ ศาลชั้นต้นยกคดีสำหรับจำเลยที่ 3 ที่ 4 ขึ้นพิจารณาคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 222)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีได้ดำเนินมาจนสืบพยานโจทก์เสร็จและได้เริ่มต้นสืบพยานจำเลยไปบ้างแล้ว จึงเกิดเหตุขึ้นดังโจทก์อ้างซึ่งเหตุดังกล่าวหาได้เกิดขึ้นภายในเขตศาลจังหวัดขอนแก่นไม่ประกอบกับพยานจำเลยที่จะสืบต่อไป ส่วนใหญ่ก็มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลจังหวัดขอนแก่น การโอนคดีไปศาลอื่นในขณะนี้น่าจะไม่เป็นประโยชน์แต่อย่างใด จึงไม่อนุญาตให้โอนคดี