คำสั่งคำร้องที่ 2166/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาจำเลยข้อ 1และข้อ 1.1 เป็นฎีกาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย จึงไม่รับฎีกาจำเลยในส่วนนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15ส่วนฎีกาจำเลยข้อ 1.2 และข้อ 2 เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลจึงเป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 จึงไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายโดยฎีกาข้อ 1.1 เป็นปัญหาว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192ฎีกาข้อ 1.2 และข้อ 2 เป็นปัญหาว่าศาลล่างใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานไม่ชอบด้วยกฎหมายและฎีกาข้อ 1.3 เป็นปัญหาว่าคดีนี้จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 82)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9,108 ทวิ วรรคสอง ฯลฯ จำคุก 6 เดือนและปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับจำเลย เพียงสถานเดียว นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 80)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 82)

คำสั่ง
จำเลยฎีกาข้อ 1.1 อ้างว่าฟ้องโจทก์ต่างกับข้อเท็จจริงในทางพิจารณาที่ได้ความ ศาลต้องพิพากษายกฟ้องเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายนั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฟังข้อเท็จจริงว่าระหว่างพิจารณาจำเลยยังครอบครองทางพิพาทและวินิจฉัยว่าตราบใดจำเลยยังครอบครองทางพิพาท ถือว่าจำเลยยังกระทำผิด จึงไม่มีข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง เห็นว่าฎีกาของจำเลย โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริง เป็นอย่างอื่นเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก
ส่วนฎีกาข้อ 1.2 และข้อ 2 ของจำเลยเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการวินิจฉัยพยานหลักฐาน เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (โดยที่จำเลยฎีกาอ้างว่าข้อ 1.3ที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ถูกอยู่ตอนท้ายของข้อ 1.2 นั้น)ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นทางสาธารณะอันเป็นที่ประชาชนใช้ร่วมกัน จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงเช่นกันที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share