แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่า หรืออาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท จึงต้องห้าม มิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว ฎีกาทุกข้อของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า แม้คดีนี้เป็นคดีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท ก็ตาม แต่คดีนี้เป็นคดีที่เกิดขื้น ระหว่างวงศ์ญาติ เนื่องจากจำเลยร่วมและโจทก์เป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน และศาลอุทธรณ์ได้พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ดังนั้น จึงเป็นข้อยกเว้นการต้องห้ามฎีกา โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 79)
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น นายมนตรี โพธิโดยนางกิมเหลียงโพธิ ผู้แทนโดยชอบธรรม ขอเข้าเป็นจำเลยร่วมโดยอ้างว่าบ้านดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้ขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารออกจากบ้านเลขที่ 122/1 หมู่ที่ 1 ตำบลวังทองอำเภอวังทองจังหวัดพิษณุโลก ของโจทก์มิให้เกี่ยวข้องอีกต่อไป ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 3,000 บาท และค่าเสียหายเดือนละ 500 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากบ้านของโจทก์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 74)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 77)
คำสั่ง
คดีนี้แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 จะพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ก็มิใช่คดีเกี่ยวกับการบังคับวงศ์ญาติทั้งหลายและบริวาร ของผู้ถูกฟ้องขับไล่ซึ่งอยู่บนอสังหาริมทรัพย์ เป็นคดี มีทุนทรัพย์พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท กรณีขับไล่ ก็ปรากฏว่ามีค่าเช่าในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง