แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ว่าเป็นอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาเช่นเดียวกัน ไม่รับฎีกาโจทก์ คืนค่าขึ้นศาล
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ทั้งหมดเป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและแทนกันใช้ค่าเสียหาย แก่โจทก์จำนวน 19,212 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่ง ต่อปีจากต้นเงิน 18,298 บาท นับจากวันฟ้อง (วันที่ 30 มิถุนายน 2535) จนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ (อันดับ 62)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 63)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์โดยเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงเป็นการไม่ชอบ เพราะอุทธรณ์ของโจทก์เป็นข้อกฎหมายนั้นเป็นฎีกาในข้อกฎหมาย จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป