แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีโอกาสชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ทั้งหกได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 203)
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินของจำเลยภายในเส้นสีแดงตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องเป็นทางภารจำยอม ให้จำเลยไปจดทะเบียนเป็นทางภารจำยอมกับให้จำเลย รื้อถอนเสาปูนและรั้วลวดหนามบนทางภารจำยอมออกไปถ้าไม่ปฏิบัติ ให้โจทก์ดำเนินการรื้อถอนเองโดยจำเลยออกค่าใช้จ่าย ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ที่ดินของจำเลยภายในเส้นสีแดง กว้าง 2.40 เมตร ยาว 10 เมตร ตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง เป็นทางภารจำยอม ให้จำเลยรื้อถอนเสาปูนและรั้วลวดหนามบนทาง ภารจำยอมออกไป ถ้าไม่ปฏิบัติให้โจทก์ดำเนินการรื้อถอนเอง โดยจำเลยเสียค่าใช้จ่ายศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอ ในส่วนที่ให้โจทก์รื้อถอนเสาปูนและรั้วลวดหนามเองโดยให้จำเลย เสียค่าใช้จ่าย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ต่อมาโจทก์ร้องว่า จำเลยได้รื้อถอนเสาและรั้วลวดหนามที่อยู่ในเขตทางภารจำยอมบางส่วน แต่ยังไม่ยอมรื้อถอนเสาและรั้วที่ปักกั้นไว้ในทางภารจำยอมทางด้านทิศเหนือที่ติดต่อกับ เขตที่ดินของโจทก์ ขอให้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดี จำเลยยื่นคำร้องว่าเสาและรั้วลวดหนามที่เหลืออยู่นั้นไม่ได้อยู่บนทางภารจำยอม จำเลยได้รื้อถอนเสาปูนและรั้วลวดหนามบนทางภารจำยอมเรียบร้อยแล้ว คงเหลือแต่การจดทะเบียนที่ดินของจำเลยให้ตกเป็นภารจำยอม แต่โจทก์คัดค้านว่าการแบ่งแยกไม่ถูกต้อง ทำให้การจดทะเบียน ภารจำยอมต้องหยุดชะงัก ให้สั่งระงับการบังคับคดี และให้ โจทก์ถอนการคัดค้านศาลชั้นต้นนัดพร้อม ระหว่างนั้นโจทก์ ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีรื้อถอนเสาและรั้วลวดหนามออกไป วันนัดพร้อมศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พิพากษาว่า ที่ดินตามแผนที่สังเขปท้ายคำฟ้องเป็นภารจำยอม จึงต้องถือตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องเป็นหลัก เสาปูนและ รั้วลวดหนามที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีรื้อถอนจึงอยู่ ในเขตทางภารจำยอม
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 196,199)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่าง ฎีกา โดยมีเงื่อนไขว่าจำเลยจะต้องไม่ปิดทางพิพาทในระหว่างฎีกา หากจำเลยปฏิบัติผิดเงื่อนไขเมื่อใด ก็อนุญาต ให้ทุเลา