คำสั่งคำร้องที่ 2060/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่าอุทธรณ์ข้อ 2.2 เป็นอุทธรณ์ที่มิได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 31 อุทธรณ์ข้อ 2.3 เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 54และอุทธรณ์ข้อ 2.4 ศาลชั้นต้นมิได้มีการวินิจฉัย การที่โจทก์อุทธรณ์จึงมิใช่เป็นการอุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลจึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ข้อ 2.2,2.3 และ 2.4 คงรับเฉพาะอุทธรณ์ข้อ 2.1,2.5และ 2.6
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ข้อ 2.2 เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง อุทธรณ์ข้อ 2.3นอกจากโจทก์จะอุทธรณ์คัดค้านว่าโจทก์กับพวกไม่ได้ตรวจสภาพหลักทรัพย์ประกันผิดแปลงแล้ว โจทก์ยังอุทธรณ์ในข้อกฎหมายว่า การตรวจสภาพหลักทรัพย์ผิดแปลงมิได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจทำให้ธนาคารเสียหาย หรือเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบของจำเลยกรณีร้ายแรงที่จะเป็นเหตุให้โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชย เงินทุนเลี้ยงชีพ เงินบำเหน็จพิเศษ และเงินโบนัสแต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ข้อ 2.2 และข้อ 2.3 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ (อันดับ 101)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวน 464,058.29 บาทแก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน436,751.34 บาท นับตั้งแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ข้อ 2.2,2.3และ 2.4 คงรับเฉพาะอุทธรณ์ข้อ 2.1,2.5 และ 2.6(อันดับ 93)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 95)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ข้อ 2.2 กล่าวอ้างว่าจำเลยตั้งคณะกรรมการสอบสวนโจทก์ไม่ชอบ ไม่เปิดโอกาสให้โจทก์แก้ข้อกล่าวหาอย่างเต็มที่ และมิได้แจ้งคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนให้โจทก์ทราบ เป็นการสอบสวนไม่ชอบด้วยระเบียบของจำเลย อันเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง เมื่อการสอบสวนไม่ชอบ จำเลยต้องจ่ายเงินตามฟ้องให้โจทก์ เป็นข้อที่โจทก์มิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในคำฟ้อง และศาลแรงงานกลางมิได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้จึงเป็นเรื่องที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง และอุทธรณ์ของโจทก์ข้อ 2.3 สรุปใจความได้ว่าโจทก์ทำรายงานการตรวจสอบหลักทรัพย์ที่จำนองเป็นประกันหนี้การกู้ยืมเงินโดยถูกต้องตามความเป็นจริงมิได้ทำการทุจริต ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับและคำสั่งของจำเลยหรือจงใจทำให้จำเลยเสียหาย เป็นอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจของศาลแรงงานกลางที่ฟังว่าโจทก์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รายงานเท็จอันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ ฝ่าฝืนระเบียบและคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลย เป็นกรณีร้ายแรงและจงใจทำให้จำเลยได้รับความเสียหายอุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์สองข้อนี้ชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share