แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ ขอให้ศาลฎีกาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 32)
คดีสองสำนวนนี้ โจทก์จำเลยเป็นคู่ความรายเดียวกันศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339,340 ตรี,371,83,91 ฯลฯ ขณะกระทำความผิดจำเลยมีอายุ 16 ปีเศษ ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งแล้วข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ 2 กรรมลงโทษจำคุกกรรมละ 7 ปี 6 เดือนรวมลงโทษจำคุก 15 ปี ข้อหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองจำคุก6 เดือนข้อหาพกพาอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตเป็นความผิด 2 กรรมซึ่งเป็นกรรมเดียวกันกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 72 ทวิ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ให้จำคุกกรรมละ 1 ปี รวมเป็นจำคุกจำเลย 2 ปีรวมแล้วลงโทษจำคุก 17 ปี 6 เดือน ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์ (สำนวนตอน 1 อันดับ 31)
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้ว ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง(สำนวนตอน 2 อันดับ 15 แผ่นที่ 3)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (สำนวนตอน 1 อันดับ 32)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวทั้งสองสำนวนโดยตีราคาประกันสำนวนละ 100,000 บาท (สำนวนตอน 2 อันดับ 1และสำนวนตอน 4 อันดับ 1)
คำสั่ง
พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วยังไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราว ศาลอุทธรณ์ยกคำร้องของจำเลยชอบแล้วมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์