แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่แก้ไขแล้ว จึงไม่รับฎีกาของโจทก์ โจทก์เห็นว่า คำสั่งว่าคดีไม่มีมูลไม่ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 และจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 มาใช้บังคับหาได้ไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 59) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 62)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 170 วรรคแรก จะบัญญัติว่า คำสั่งว่าคดีไม่มีมูล โจทก์มีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ แต่ก็ต้องอยู่ในบังคับ แห่งบทบัญญัติว่าด้วยการอุทธรณ์ฎีกาด้วย คดีนี้ ศาลชั้นต้น ไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้องโจทก์ และศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง