คำสั่งคำร้องที่ 1985/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า กรณีไม่ได้ รับอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและฎีกาของจำเลย ล้วนเป็นปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น จึงไม่รับฎีกา จำเลยเห็นว่า ฎีกาข้อ 3 ของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาข้อ 3 ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 33) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4,7,8,26,75,76,102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,91 จำคุกจำเลยกระทงละ 2 ปีรวมลงโทษจำเลยจำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงลงโทษจำคุก 2 ปี ริบของกลาง คืนเงิน 50 บาท แก่เจ้าของ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิด ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 75 วรรคแรก,76 วรรคสอง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 30) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 33)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก จำเลย 2 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย และให้ลงโทษจำคุกจำเลยเท่าเดิม ซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกา ข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ฎีกาของจำเลยที่ว่าจำเลยได้อุทธรณ์ เหตุบรรเทาโทษเหตุใหม่นอกจากการสารภาพอันเป็นเหตุใหม่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 วรรค 2 ซึ่งศาลต้องลดโทษ ให้จำเลยอีก กับให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยนั้น เป็นฎีกาใน ข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share