คำสั่งคำร้องที่ 1971/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคแรกจำเลยจึงหามีสิทธิฎีกาต่อไปได้ไม่ จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า กรณีเป็นฎีกาของจำเลยจะถึงที่สุดนั้นจะต้อง เป็นปัญหาข้อเท็จจริงแต่ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมาย จำเลย จึงมีสิทธิฎีกาได้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้ พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 74)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่พิพาทตามพื้นที่เส้นสีน้ำเงินในรูปที่ดินโดยประมาณตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)เล่ม 8 หน้า 112 สารบบเล่มเลขที่หน้า 27 หมู่ที่ 5 ตำบลหัวเมืองอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็นหมู่ 11)ตำบลหัวเมือง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร) เอกสารหมาย จ.2เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่เศษเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องอีกต่อไป ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ (อันดับ 45)
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้ยกคำร้อง (อันดับ 46,55)
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 64)
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว (อันดับ 70)

คำสั่ง
กรณีที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์แล้วศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธ ของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ คำสั่งนี้ย่อมถึงที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236ต้องห้ามมิให้ คู่ความฎีกาโต้แย้งคำสั่งนั้น ไม่ว่าฎีกานั้นจะเป็นปัญหา ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายก็ตาม เมื่อฎีกาของจำเลยต้องห้าม ตามกฎหมายดังกล่าวที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ของ จำเลย

Share