คำสั่งคำร้องที่ 196/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ เป็นฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการทุเลาการบังคับ เห็นว่า การที่ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตให้ทุเลาการบังคับหรือไม่ เป็นอำนาจ โดยเฉพาะของศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์สั่งอย่างใดแล้ว โจทก์ ไม่มีสิทธิฎีกา ฎีกาของโจทก์จึงไม่ชอบ ไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า แม้โจทก์จะยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ แต่สาระสำคัญแห่งคำร้องของ โจทก์เป็นเรื่อง ขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 จึงถือได้ว่าคำร้องขอทุเลาการบังคับของโจทก์เป็นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณา เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ก็ควรถือว่าศาลอุทธรณ์ไม่ให้คุ้มครองประโยชน์ดังกล่าว โจทก์ย่อมฎีกาได้ โปรดรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยที่ 5 ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 7)
สืบเนื่องจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 5 รวม 6 รายการ จำเลยจึงได้ผ่อนชำระหนี้ให้แก่โจทก์จนครบ และแจ้งให้โจทก์ถอนการยึดทรัพย์แต่โจทก์เพิกเฉยจำเลยจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์ถอนการยึดทรัพย์โจทก์แถลงคัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ถอนการยึดหุ้นธนาคารเอเซีย จำกัดจำนวน 187,833 หุ้น, ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รวม 5 โฉนด ซึ่งมี ชื่อจำเลยที่ 5 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โดยให้โจทก์รับผิดใน ค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขาย
โจทก์อุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลอุทธรณ์มี คำสั่งยกคำร้อง
โจทก์ฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 2)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 4)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คำสั่งของศาลในเรื่องทุเลาการบังคับเป็นอำนาจ เฉพาะศาลเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งในเรื่องทุเลาการบังคับอย่างใดแล้ว คู่ความจะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์อีกไม่ได้ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้องค่าคำร้องให้เป็นพับ

Share