แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีต้องห้าม ฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกาจำเลย คืนค่าขึ้นศาล จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม มูลหนี้ตามเช็คไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือในการกู้ยืมเงิน จะนำมาฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ และคำสั่งศาลชั้นต้น ที่งดสืบพยานจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 10) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ จำนวน 43,687.43 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินจำนวน 42,700 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้อง(14 พฤษภาคม 2536) เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระให้แก่โจทก์แล้วเสร็จ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 94) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 95)
คำสั่ง จำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน มาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ก่อน จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ไม่รับฎีกาของจำเลย ค่าคำร้องเป็นพับ
